วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

แหล่งการเรียนรู้

    

   สวัสดีครับ..   ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่ 2556 น่ะครับ อาจารย์นัทธีรัตน์  ผมขออวยพรให้อาจารย์มีความสุขมากๆครับ คิดหรือประสงค์สิ่งใด ก็ขอให้สมดังปรารถนาไว้ ขอให้อาจารย์มีสุขภาพพลานามัยที่ดีและแข็งแรงด้วย ^____^

วัดโพธิ์
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
  พระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร วัดประจำรัชกาลที่ ๑

ประวัติวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร   ( วัดโพธิ์ )

          วัดพระเชตุพนตามประวัติสร้างมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับการสร้าง เดิมเรียกว่า "วัดโพธาราม" หรือ "วัดโพธิ์" ได้ถูกยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงในสมัยกรุงธนบุรี ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ  ให้สถาปนาวัดนี้ใหม่ในปี      พ.ศ. 2331 โดยทรงสร้างพระอุโบสถ พระระเบียง พระวิหาร ตลอดจนบูรณะของเดิม เมื่อแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2344 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส” เป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

วัดโพธิ์
พระพุทธไสยาส

     จุดเด่นที่สำคัญของวัดโพธิ์ ก็คือ พระพุทธไสยาส หรือ พระนอน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีพุทธลักษณะงดงามเป็นอันดับต้น ๆ และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โดยเชื่อกันว่าเป็นปางโปรดอสุรินทราหู เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองเหลืองอร่ามทั้งองค์ ในขณะที่พระพักตร์อิ่มเอิบ ดูขรึมขลังงดงามสมส่วน เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งศรัทธา

    วัดโพธิ์

           พระมหาเจดีย์พระศรีสรรเพชญดาญาณ องค์ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียว สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อครอบพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่สูง 16 เมตร ได้ชะลอมาจากพระราชวังที่กรุงศรีอยุธยา ภายในบรรจุพระบรมธาตุ นับเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1          
           พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรรกนิทาน องค์ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาว สร้างในรัชกาลที่ 3 ทรงพระราชอุทิศถวายแต่พระบรมราชชนก คือรัชกาลที่ 2 นับเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 2        
           พระมหาเจดีย์มุนีบัติบริขาน องค์ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงพระราชอุทิศถวายเป็นพุทธบูชา นับเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระองค์         
           พระมหาเจดีย์ทรงพระศรีสุริโยทัย องค์ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาบ หรือสีน้ำเงินเข้ม รัชกาลที่ 4 ทรงสร้างขึ้นตามแบบพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย กรุงศรีอยุธยา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา


วัดโพธิ์

ยักษ์วัดโพธิ์

       ยักษ์วัดโพธิ์นั้นตั้งอยู่ที่ซุ้มประตูทางเข้าพระมณฑป โดยมีสีกายเป็นสีแดงและสีเขียว ลักษณะคล้ายยักษ์ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งมักมีผู้เข้าใจผิดว่าตุ๊กตาสลักหินรูปจีน หรือ ลั่นถัน นายทวารบาลที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าประตูวัดนั้นคือ ยักษ์วัดโพธิ์ นอกจากนี้ ยังมีตำนานเกี่ยวกับยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำให้เกิดท่าเตียนในปัจจุบัน นั่นคือ ยักษ์วัดโพธิ์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลวัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำหน้าที่ดูแลวัดแจ้งนั้น ทั้ง 2 ตนเป็นเพื่อนรักกัน วันหนึ่งยักษ์วัดแจ้งไปขอยืมเงินจากยักษ์วัดโพธิ์ เมื่อถึงกำหนดส่งเงินคืนยักษ์วัดโพธิ์กลับไม่ยอมจ่าย ดังนั้น ยักษ์ทั้ง 2 ตนจึงเกิดทะเลาะกัน แต่เพราะรูปร่างที่ใหญ่โตและพละกำลังที่มหาศาลของยักษ์ทั้ง 2 ตน เมื่อเกิดต่อสู้กันจึงทำให้บริเวณนั้นราบเรียบโล่งเตียนไปหมด เมื่อพระอิศวรทราบเรื่องนี้ จึงได้ลงโทษให้ยักษ์วัดโพธิ์ยืนเฝ้าพระอุโบสถวัดโพธิ์ และยักษ์วัดแจ้งยืนเฝ้าวิหารวัดแจ้งตั้งแต่นั้นมา


ความสำคัญทางการศึกษา

มหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย

      วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารเปรียบเสมือนมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย โดยเมื่อมีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดครั้งใหญ่ในรัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมสรรพวิชาแขนงต่าง ๆ จารึกลงบนศิลาจารึกหรือแผ่นศิลา รวมทั้งได้ปั้นฤๅษีดัดตน ประดับไว้ภายในบริเวณวัด ซึ่งอาจจะแบ่งความรู้ต่าง ๆ ออกได้เป็น 8 หมวด ได้แก่ หมวดประวัติการสร้างวัดพระเชตุพนฯ หมวดตำรายาแพทย์แผนโบราณ หมวดอนามัย หมวดประเพณี หมวดวรรณคดีไทย หมวดสุภาษิต หมวดทำเนียบ (จารึกหัวเมืองขึ้นของกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น) และหมวดพระพุทธศาสนา โดยเมื่อเทียบในปัจจุบันอาจจะแบ่งออกเป็นคณะต่าง ๆ ดังนี้ คณะประวัติศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ (ไม่เป็นทางการ)


วัตถุประสงค์

1. ศึกษาประวัติความเป็นมาของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
2. เพื่อศึกษาความสำคัญของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารซึ่งเป็นวัดสำคัญ    ของประเทศไทย
3. เป็นวัดที่ประกอบพิธีทางศาสนาของพระบรมวงศานุวงศ์
4. เพื่อศึกษาการนวดแผนโบราณที่เป็นสิ่งที่โดดเด่นของวัด


การเดินทาง

ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  10200

ออกจากอุรุพงษ์ - วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
   โดยเดินทางผ่านถนนหลานหลวง    ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย    ผ่านท้องสนามหลวง  
ผ่านวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)


การบูรณาการแหล่งการเรียนรู้

     วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยบันทึกไว้บนฝาผนังของพระอุโบสถ มีบรรยากาศของวัดที่ดำรงความสวยงาม ความเก่าแก่ไว้เป็นอย่างดี มีความสำคัญ


การเรียนรู้ในด้านเจตคติ

    มีความประทับใจ เมื่อได้เข้าไปสักการะพระพุทธไสยาส ซึ่งเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุด ในพระอุโบสถมีความสวยงาม ดำรงเอกลักษณ์ไว้เป็นอย่างดี มีการเรียนรู้ในเรื่องของการนวดแผนโบราณ บริเวณวัดมีรูปปั้นของฤาษีดัดตน 80 ท่า แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 24 รูปปั้น เพราะถูกลักลอบนำไปขาย วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร จึงเป็นวัดน่าศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมา เพราะเป็นวัดที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนานอีกวัดหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น